10 อันดับ เครื่องรางของขลัง ยอดนิยม V.3

10 อันดับ เครื่องรางของขลัง ยอดนิยม V.3
แชร์ให้เพื่อน

เครื่องรางของขลัง ในวงการพระเครื่องเมืองไทยมีการจัดสร้างหลายรูปแบบหลายลักษณะ แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น เครื่องรางของขลัง เดิมที่จะนิยมกันเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ ก่อน แต่ต่อมามีผู้นำไปใช้แล้วได้รับประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ ได้ในสิ่งที่ปราถนา จึงมีการพูดกันปากต่อปาก จนได้รับความนิยมในวงกว้างมาขึ้นเรื่อย ๆ ต่อมาจึงมีการจัดสร้างขึ้นมาเพื่อให้เพียงพ่อต่อความต้องการของประชาชน สำหรับท่านที่เพิ่งเข้ามาอ่านบทความนี้ บทความเรื่องเครื่องรางของขลังนี้เป็นตอนที่ 3 จึงขอแนะนำให้ท่านได้อ่านใน 2 ตอนที่ผู้เขียนได้เขียนเอาไว้เพื่อความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 10 อันดับ เครื่องรางของขลัง ตอนที่ 1 ,10 อันดับ เครื่องรางของขลัง ตอนที่ 2

 

 

บาตรน้ำมนต์
บาตรน้ำมนต์

1. บาตรน้ำมนต์

บาตรน้ำมนต์ หรือ ขันน้ำมนต์ เป็นของมงคลอย่างหนึ่ง สร้างจากวัสดุหลายชนิด เช่น ดินเผา เนื้อกระเบื้อง เนื้อโลหะ เนื้อทองเหลือง ขันน้ำมนต์ส่วนมากจะแกะสลักลายต่าง ๆ เช่น ลายเทพพนม เทวดา ลายไทย ลายพญานาค บางสำนักมีสลักเป็นยันต์คาถา ส่วนด้านในมักมีพระกริ่งอยู่หนึ่งองค์ โดยเฉพาะสายวัดสุทัศน์ ขันน้ำมนต์เอาไว้ทำน้ำมนต์ประกอบพิธีมงคล พระเกจิอาจารย์ที่ทำน้ำมนต์จะบริกรรมคาถาและหยดน้ำตาเทียนลงไปในขันน้ำมนต์ ส่วนตามบ้านเรือนที่มีขันน้ำมนต์อยู่ประจำบ้าน ก็สามารถทำน้ำมนต์เองได้ด้วยการใส่น้ำสะอาดลงไปในขันน้ำมนต์ ก็สามารถนำน้ำในขันน้ำมนต์มาใช้ในงานพิธีมงคลต่าง ๆ ได้ เพราะขันน้ำมนต์มีความศักดิ์สิทธิ์ได้รับการปลุกเสกมาจากวัดแล้ว การบูชาขันน้ำมนต์ ให้ใส่น้ำไว้ตลอดตั้งไว้บนหิ้งพระ นัยว่าเพื่อความร่มเย็นของบ้านเรือน ขันน้ำมนต์ที่ได้รับความนิยม เช่น ขันน้ำมนต์ วัดสุทัศน์ ขันน้ำมนต์ วัดระฆังโฆษิตาราม หรือวัดบางขุนพรหม

 

 

เครื่องรางของขลัง
สายสิญจน์

2. สายสิญจน์

“สายสิญจน์” มีลักษณะเป็นเส้นด้ายสีขาวยาว ๆ เป็นกลุ่มด้ายหรือเป็นขด เส้นเล็กบ้าง เส้นใหญ่บ้าง แล้วแต่งานพิธีเล็กหรือใหญ่ ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ในพิธีมงคลพระถือขณะประนมมือสวดมนต์ เวลาทำบุญที่บ้านนิยมใช้สายสิญจน์วนรอบบ้านด้วยการเวียนขวา ฃแล้วโยงมาวนขวาที่ฐานพระพุทธรูปที่เป็นพระประธาน แล้วคลี่มาวางไว้บนพานอยู่ด้านขวามือของพระสงฆ์ที่ประธานพิธี สายสิญจน์มักใช้ในงาน งานทำบุญเลี้ยงพระ ปลุกเสกพระเครื่อง สวดภาณยักษ์ สวดมนต์ข้ามปี พิธีกรรมทางศาสนาทุกชนิด  ในทางโลกมักใช้สายสิญจน์ทำเป็นมงคลคล้องศีรษะคู่บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรส

 

 

รักยม
รักยม

3. รักยม

“รักยม” เป็นรูปเด็กแกะด้วยไม้มี 2 ตน ตนหนึ่งมีลักษณะเป็นเด็กผมจุกยืนกำหมัด คล้ายทำท่าชกมวย ชื่อรัก แกะด้วยไม้รักซ้อน ส่วนอีกตนชื่อยม แกะจากไม้มะยม เมื่อพระเกจิอาจารย์ได้แกะรูปเด็กหัวจุกทั้งสองเสร็จแล้ว ก็จะทำพิธีปลุกเสก โดยเอารักยมสองวางลงในขัน ที่ใส่น้ำมันหอมหรือน้ำมันจันทร์ไว้ จากนั้นพระอาจารย์จะปลุกเสกจนรักยมจากที่นอนเฉย ๆ จะลุกขึ้นมาเล่นกัน เสร็จแล้วจะนำรักยมบรรจุใส่ขวดแก้วคู่กันใส่น้ำมันหอมลงไป

การเลี้ยงรักยมต้องจัดหาข้าวปลาอาหารมาเลี้ยง เหมือนกับการเลี้ยงกุมารทอง จะแตกต่างกันที่กุมารทองชอบของเล่น แต่รักยมจะชอบของหอม การเลี้ยงรักยมต้องระวังอย่าให้น้ำมันหอมแห้ง เพราะหากน้ำมันหอมแห้งจะทำให้รักยมหย่อนความศักดิ์สิทธิ์

การเลี้ยงรักยมนั้นให้คุณ ให้โชค เฝ้าบ้านเรือน ปัดเป่าขจัดเสนียดจัญไร

 

 

นกคุ้ม

4. นกคุ้ม

นกคุ้ม เป็นตกตัวเล็ก ๆ อ้วน อุ้ยอ่าย น่ารัก ลักษณะคล้ายนกกระทา ชอบชุกตามกอหญ้าหรือพุ่มไม้ มักอยู่เป็นคู่ ๆ คนไทยเชื่อกันว่านกคุ้มเป็นสัตว์มงคล นกคุ้มยังมีความเกี่ยวพันกับพระพุทธศาสนาด้วย คือ ในพระชาดกกล่าวไว้ว่า พระโพธิสัตว์ได้เคยเสวยพระชาติเป็นพญานกคุ้ม ขณะที่พญานกคุ้มยังเป็นลูกนกอยู่นั้น วันหนึ่งในขณะที่บิดามารดาของพระโพธิสัตว์พญานกคุ้มออกไปหาอาหาร ได้เกิดไฟป่าลุกไหม้และรามมายังรังนกคุ่มที่มีพญานกคุ้มอยู่ตัวเดียว พระโพธิสัตว์เห็นว่าไฟคงจะเผาไหม้ตนเองเป็นแน่แท้ จึงตั้งจิตอธิษฐานสต่อเทวดาฟ้าดินว่า ปีกของเรามีอยู่แต่บินไม่ได้ เขาของเรามีอยู่แต่เดินไม่ได้ มารดาบิดาของเราทั้งสองท่านไม่อยู่ออกไปหาอาหาร ถ้าสิ่งทั้งปวงที่เรากล่าวออกมาทั้งหมดนี้เป็นจริงดังที่เราคาดการณ์ไว้แล้วไซร์ ขอเปลวไฟอย่าได้ทำอัตรายเรา สิ้นเสียงคำอธิษฐานของพญานกคุ้ม เปลวไฟที่กำลังลุกโหมก็พลันดับลงเป็นอัศจรรย์ ทำให้พญานกคุ้มปลอดภัยจากพระเพลิง

“นกคุ้ม” เป็นเครื่องรางของขลังใช้บูชาป้องกันไฟไหม้ ป้องกันทรัพย์สิน ป้องกันเงินทองไม่ให้สูญหาย  สามารถเรียกทรัพย์ เรียกเงินทอง โชคลาภ สิริมงคล การเงิน ค้าขาย โชคลาภ ดูดทรัพย์ เมตตามหานิยม นำโชคลาภ

การเลี้ยงนกคุ้ม ควรบูชาด้วยน้ำหวาน หรือ น้ำผึ้ง ขนมต่าง ๆ

 

 

สีผึ้ง
สีผึ้ง

5. สีผึ้ง

สีผึ้ง คนโบราณมักใช้สีผึ้งทาปาก เพื่อความสวยงาม เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับริมฝีปาก โดยเฉพาะยามหน้าหนาวที่อากาศเย็นและแห้ง สีผึ้งใช้ป้องกันไม่ให้ปากแตกได้ เมื่อสีผึ้งมีสรรพคุณมากมายเช่นนี้ พระเกจิอาจารย์จีงได้นำสีผึ้งมาทำพิธีปลุกเสก ด้วยการใช้สีผึ้งโบราณใส่ตลับ ฝังของวิเศษไว้กับเนื้อสีผึ้ง ปลาเงินปลาทอง นกคุ้ม ตะกรุดเงินตะกรุดทอง เป็นต้น แล้วทำพิธีสวดเวทย์มนต์คาถากำกับไว้ แล้วแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์นำไปบูชา

สีผึ้งให้พลังวิเศษ เช่น เมื่อนำไปทาปากจะทำให้คำพูดมีเสน่ห์ การเจรจาธุรกิจประสบความสำเร็จ ดูดทรัพย์เข้าบ้าน ให้โชคลาภ

แหวนพิรอด

แหวนพิรอด เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งของไทยที่ได้รับความนิยมมาช้านาน แหวนพิรอดจะมี 2 ประเภท คือ

  1. แหวนพิรอดนิ้ว มีขนาดเล็กเอาไว้สวมนิ้ว
  2. พิรอดแขน จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาเอาไว้สวมแขนบริเวณต้นแขน

แหวนพิรอดที่สวมนิ้วจะได้รับความนิยมกว่า โดยเฉพาะในหมู่ผู้ชายที่ชอบเครื่องรางของขลัง การสร้างแหวนพิรอดนั้นตามตำราโบราณนั้น เมื่อถักเป็นแหวนเสร็จจะนำแหวนไปชุบครั่งลงรักไว้อีกที แล้วน้ำมาบริกรรมคาถา แหวนพิรอด มีอานุภาพคงกระพันชาตรี ป้องกันเสนียดจัญไร ปัดเป่าสิ่งไม่ดี

 

 

สาลิกาลิ้นทอง
สาลิกาลิ้นทอง

6. สาลิกาลิ้นทอง

นกสาลิกา เป็นนกตัวเล็ก ๆ ลำตัวสีเขียวหรืออมฟ้า ปากสีแดง ปลายปีกแซมด้วยขนสีน้ำตาลแดง เป็นนกที่ขันเก่งมีเสียงไพเราะ โดยเฉพาะเวลาตัวผู้ร้องเกี้ยวตัวเมีย

ในแวดวงเครื่องรางของขลัง ได้จำลองนกสาลิกาเป็นคู่ ๆ สร้างด้วยไม้หอมชนิดต่าง ๆ ทำด้วยโลหะ พระเกจิอาจารย์ก็จะปลุกเสกเจ้านกสาลิการจนมันขยับตัวได้ มีคุณวิเศษทางด้านความมีเสน่ห์ ดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้การเจรจาธุรกิจการค้าสำเร็จ

นอกจากนั้น ยังมีการนำนกสาลิกา มาทำเป็นเครื่องรางประเภทอื่น ๆ อีก เช่น ฝังไว้ในตลับสีผึ้ง ทำเป็นผ้ายันต์สาลิกา ซึ่งล้วนมีเสน่ห์ทางด้านเมตตามหานิยมเช่นกัน

 

 

ลูกอม
ลูกอม

7. ลูกอม

ลูกอมที่เป็นเครื่องรางของขลังนั้น แต่เดิมสร้างขึ้นจากมวลสารที่เหลือจากการสร้างพระจำพวกพระผง มาปั้นเป็นลูกกลม ๆ ต่อมาลูกอมได้รับความนิยมมากขึ้นมากเข้า จึงมีการผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อสร้างเป็นลูกผมโดยเฉพาะขึ้นมา ส่วนมากมวลสารจะเป็นชนิดเดียวกับที่สร้างพระเนื้อผง ลูกอมมีทั้งลูกเล็กลูกใหญ่ แต่ที่นิยมกันมากจะมีขนาดเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย บางสำนักเอามวลสารมาปั้นเป็นลูกกลม บางสำนักปั้นแล้วไปชุบรัก หรือบางวัดเอาสีเงินสีทองมาพ่น เมื่อปั้นลูกอมได้ขนาดตามต้องการแล้ว พระเกจิอาจารย์ ก็จะนำเข้าพิธีปลุกสก ลูกอมนั้นเชื่อกันว่าให้คุณทางด้านโชคลาภ เมตตา ค้าขาย

 

 

เสื้อยันต์
เสื้อยันต์

8. เสื้อยันต์

คติความเชื่อเรื่องเสื้อยันต์ พัฒนามาจาก ผ้ายันต์ เดิมที่พระเกจิอาจารย์สมัยโบราณมักเอาผ้ามาเขียนอักขระคาถาลงในผ้าแล้วนำไปปลุกเสกแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์พกติดตัว เมื่อมีคนนำผ้ายันต์ไปใช้แล้วเกิดพลังนุภาพปกป้องคุ้มภัย จึงมีคนมาขอผ้ายันต์กันมาขึ้น ตอนมาหลัง ๆ การใช้ผ้ายันต์พกพาอาจไม่สะดวก เช่น ลืมพกติดตัวมายามออกจากบ้าน ประกอบกับในสมัยก่อนมีการสู้รบกัน เหล่าทหารจึงอยากได้ผ้ายันต์ผืนใหญ่เอาไว้คลุมกายและให้พกสะดวก จึงมีการพัฒนามาเป็นเสื้อยันต์สำหรับเอาไว้ใส่ตัวตัวเลย ไม่ต้องคอยกลัวว่าจะลืมหยิบมา แรก ๆ จะนิยมในหมู่ทหาร ตำรวจ ต่อมาเมื่อเสื้อยันต์มีผู้นำไปใช้แล้วได้ประสบการณ์มากเข้า ๆ จึงมีประชาชนแสวงหามาครอบครองมากขึ้น ๆ

สำหรับเสื้อยันต์ จะมีอานุภาพอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด ปลอดภัย เสื้อยันต์ที่ได้รับความนิยมในวงการพระเครื่อง คือ เสื้อยันต์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เสื้อยันต์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เสื้อยันต์หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม : เพจหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ

 

 

พญาเต่าเรือน
พญาเต่าเรือน

9. พญาเต่าเรือน 

เต่า เป็นสัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก มีอายุยืน คนไทยถือว่าเต่าเป็นสัตว์มงคลหรือแม้แต่ชาวจีน หรือคนต่างชาติชาวเอเชียส่วนใหญ่จะถือว่าเต่าเป็นสัตว์นำโชค ตามวัดไทยหลายวัดในเมืองไทยก็นิยมเลี้ยงเต่าไว้ในวัด นัยว่าเพื่อให้คนที่มาทำบุญได้ ทำบุญสะเดราะห์กับเต่า เลี้ยงอาหารเต่า เป็นต้น เมื่อคนไทยมีความเชื่อที่ดี ๆ ต่อเต่า จึงทำให้มีการสร้างเต่าเป็นพญาเต่าเรือนขึ้นมาโดยพระเกจิอาจารย์หลาย ๆ วัด มีการนำรูปจำลองเต่ามาสร้างเป็น เหรียญ รูปหล่อเต่า เขียนลงในฟ้ายันต์ ฯลฯ

พญาเต่าเรือน ที่ได้รับความนิยม คือ พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน พญาเต่าเรือนหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง เป็นต้น

 

 

ชูชก
ชูชก

10. ชูชก

ชูชกมีรูปร่างอัปลักษณ์แต่มีสติปัญญา มีนางอมิตดาเป็นภรรยา ชูชกดำรงชีพอยู่ด้วยการขอ ชูชกเที่ยวขอทานไปทั่วไม่ว่าพระราชา เศรษฐี ยาจก ชูชกก็ขอไปหมด ชูชกชกปรากฏในมหาเวสสันดรชาดก ตอนที่ไปขอพระกุมาร กัญหา ชาลี จากพระเวสสันดร

ในวงการเครื่องรางของขลัง ยกย่องว่าชูชกเป็นยอดแห่งการขอ เป็นเจ้าแห่งโภคทรัพย์ พระเกจิอาจารย์หลายวัดจึงได้จัดสร้างชูชก เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง ให้ลูกศิษย์ไว้พกติดตัว โดยมีความเชื่อว่าชูชกใช้ให้การค้าขายต่าง ๆ ประสบความสำเร็จ ร้องขอสิ่งใดจะได้สมใจปราถนา

 

สรุป

เครื่องรางของขลังที่เขียนมาแล้ว 3 ตอน รวมเรื่องรางของขลังที่ได้รวบรวมไว้มีถึง 30 ชนิด แต่จริง ๆ แล้ว ในสังคมไทยยังมีเครื่องรางของขลังอีกหลายอย่างที่มีคนนำมาบูชา ซึ่งตามแต่ความเชื่อของแต่ละพื้นที่ เรื่องความเชื่อเรื่องปาฏิหารย์ ความศักดิ์สิทธิ์ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลจริง ๆ ไม่มีใครจะไปกล่าวล่วงความเชื่อของแต่ละคนได้ เราจะบูชาพระอะไร เครื่องรางชนิดไหน ควรใช้วิจารณญาณส่วนตัว ประกอบกับหาข้อมูลว่าแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด แต่การห้อยพระ บูชาเครื่องราง ผู้บูชาต้องมีคุณธรรมคู่กันไปด้วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อหนุนด้วย ชีวิตก็จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง

 

ข่าวประชาสัมพันธ์

หากที่บ้านของท่านมีพระ และต้องการปล่อยพระ

ติดต่อเราได้เลย

ร้านไมตรีรับเช่าพระ พระเครื่อง พระบูชาเก่า – ใหม่ทุกชนิด ให้ราคาสูงที่สุด จนท่านพอใจ

โทร. 084-4493578

ดูรายละเอียดการรับเช่าพระ ที่นี่


แชร์ให้เพื่อน