ตายแล้วฟื้น เรื่องจริง ประสบการณ์จริง

ตายแล้วฟื้น
แชร์ให้เพื่อน

ตายแล้วฟื้น

เรื่องการ ตายแล้วฟื้น มีกรณีเกิดขึ้นปรากฏตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์เป็นระยะ ๆ ส่วนมากจะเกิดกับผู้ใหญ่ ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย มีภาวะที่ร่างกายไม่ตอบสนองแล้ว ทางแพทย์ก็ยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ก็มีหลายคนที่กลับฟื้นตื่นขึ้นมาจากความตาย สร้างความประหลาดใจให้กับแพทย์เป็นอย่างมาก เรื่องราวการที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายอายุ 10 ขวบ ที่เสียชีวิตแล้วกับฟื้นขึ้นมาใหม่ จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันได้ครับ

นายจ๋อย ชื่อจริง นายบุญมาก คล้ายทอง (ชื่อเดิม พิฆเนศ คล้ายทอง) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองเคยประสบกับความตายมาแล้วแต่กลับฟื้นขึ้นมาได้ โดยได้เล่าว่าตนเองมีโรคประจำตัวคือโรคลิ้นหัวใจรั่ว ซึ่งเป็นมาตั้งแต่กำเนิด ตอนอายุ่ 10 ขวบ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ตนเองมีมีอาการโรคหัวใจกำเริบ รู้สึกหายใจติดขัด หัวใจเต้นสั่นรัว มือเท้าเย็น กำลังนั่งเล่นกับเพื่อนอยู่ ๆ เกิดเป็นลมหมดสติ คุณแม่คือนายงสมคิด คล้ายทอง ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง แพทย์วินิจฉัยพอว่า กระบังลมรั่ว ฝาพนังหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจรั่วทั้ง 4 ห้อง ตรวจแล้วมีอาการขั้นวิกฤต จึงได้นำตัวเข้าทำการผ่าตัดเป็นการด่วน

หลังผ่าตัดออกมาตนเองนอนพักฟื้นในห้องไอซียู 6 วัน ร่างกายก็ยังไม่รู้สึกตัว พอเข้าวันที่ 7 คุณหมอได้มาตรวจตามปกติ พลว่าตนเองไม่หายใจ วัดชีพจรและความดัน ปรากฏว่าทั้งชีพจรและความดันของตนเองวัดไม่ได้ ปลายมือปลายเท้าเริ่มเขียวคล้ำ จึงแจ้งให้คุณแม่ทราบว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว ขอให้ญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลได้เลย แต่คุณแม่เข้ามาจับตัวตนเองเห็นว่าเนื้อตัวยังอุ่นอยู่ ไม่เห็นเหมือนคนตายทั่วไป จึงขอร้องหมอว่าขอรอดูอีกหนึ่งวัน

ตายแล้วฟื้น

 

พอวันรุ่งขึ้นคุณแม่และญาติ ๆ ได้มาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้คุณหมอได้เข็นตนเองออกมานอกห้อง เพื่อเตรียมนำไปทำความสะอาดศพและให้ญาตินำกลับบ้าน ระหว่างนี้คุณแม่ได้นำธูป เทียน และนำเงิน ใส่ไว้ในมือตนเองและกระซิบที่ข้างหูเบา ๆ ให้เอาเครื่องเซ่นเหล่านี้ไปถวายให้ ท้าวหิรัญพนาสูร สักพักไม่ถึงชั่วโมง ตนเองรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา ขยับแขนขาได้ คุณแม่ดีใจมาก จึงได้รับไปตามคุณหมอมาดูอาการ คุณหมอและพยาบาล รู้สึกประหลาดใจมากที่ตนเองมีสติฟื้นกลับคืนขึ้นมา

หลังจากที่คุณหมอได้ปฐมพยาบาลให้ตนแล้ว คุณแม่จึงได้รับตนเองกลับมาบ้าน ข่าวของตนเองเป็นที่สนใจของบรรดาลญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก ต่างเข้ามาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่นตนเองตายไปว่ามีอะไรบ้าง

ตนเองจึงเล่าให้ทุกคนว่า ตนเองรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในกลุ่มหมอกควัน พอควันจางลงพบคนจำนวนหนึ่งเหมือนคนโบราณนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ บางคนนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย บางคนก็นั่งเฉย ๆ ไม่ได้กิน ตนเองจึงเข้าไปสอบถามว่าทำไมไม่ไปนั่งกินข้าวร่วมกับเข้า ชายคนที่นั่งอยู่ตอบว่าตนเองกินไม่ได้ ไม่ใช่ส่วนของตน เนื่องจากสมัยมีชีวิตอยู่ตนเองไม่เคยได้ทำบุญ เมื่อ่ตายมาอยู่ปรโลกจึงไม่มีอาหารกิน ต้องรอญาติพี่น้องอุทิศบุญมาให้ถึงจะมีอาหารกิน พอตนเองเดินตามทางเข้ามาอีกประตูหนึ่งพบตากับพี่ชายนั่งรออยู่ ตาบอกว่าให้รีบกลับไป ทางบ้านรออยู่ หลังจากคำพูดตาดูได้สักพัก ก็ปรากฏร่างของชายสูงใหญ่ 3 คน คนแรกเป็นหัวหน้าถือไม้เท้าอันเขื่อง แต่เครื่องประดับสีทอง  อีก 2 คนเป็นบริวาร นุ่งหยักรั้งสีแดง คนเป็นหัวหน้าได้กล่าวกับตนเองว่าให้ตามมาจะพาไปส่ง และกำชับว่าหลังจากกลับไปแล้ว ให้ไปบอกพ่อแม่ให้นำขนุนมาเซ่นไหว้ตนด้วย ชายทั้ง 3 คน นำตนเองมาที่ประตูแห่งหนึ่งพอตนเองก้าวพ้นประตูรู้สึกเหมือนวูบไปชั่วระยะหนึ่ง มารู้สึกตัวหลังจากที่คุณแม่มากระซิบข้างหู

ด้านนางสมคิด คล้ายทอง ได้กล่าวเสริมอย่างตื่นเต้นว่าคืนก่อนนี้ 1 วัน ตนเองได้ฝันถึงท้าวหิรัญพนาสูร ท่านได้มาสั่งให้ตนเองเอาเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้ของพรท่านที่รูปเหมือนที่ท้ายหมู่บ้าน ตนเองจึงนำเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ไปกราบไหว้ รูปปั้นท้าวหิรัญพนาสูร เสร็จแล้วจึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลทันที ตนเองดีใจมากที่ท่านท้าวหิรัญพนาสูรได้มาช่วยชีวิตลูกชายตน หลังจากนั้นตนก็ได้นำเครื่องเซ่นชุดใหญ่ไปสักการะท่านท้าวหิรัญพนาสูรอีกครั้งหนึ่ง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

สรุป

เหตุการณ์การ ตายแล้วฟื้น ที่เคยปรากฏขึ้นมาตลอดต่อเนื่อง ไม่เฉพาะในเมืองไทย แต่ในต่างประเทศก็เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาแล้ว เป็นเรื่องอจินไตยที่อธิบายได้ยาก เนื่องจากเป็นเรื่องลึกซึ้ง แต่ในพระไตรปิฏกและในคัมภีร์พระพุทธศาสนาก็มีการกล่าวถึงมาก่อนแล้ว เป็นเพียงความเชื่อหรือเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมของปัเจกบุคคล ยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป

 

ขอบคุณภาพและข่าว https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3141328


แชร์ให้เพื่อน